วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

H&M : Bangkok Flagship Store


เปิดไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวานนี้ตอน 1 ทุ่ม(นิดๆ..5..5..5) ร้าน"H&M"สาขาที่ว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย(อย่างน้อยๆก็ตอนนี้..5..5..5)ด้วยขนาด 3,900 ตารางเมตรที่ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ โดยการเปิดแบบเป็นทางการสำหรับลูกค้าทั่วไปคือวันพรุ่งนี้..วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม โดยลูกค้าคนแรกที่เข้าร้านจะได้รับ"Gift Voucher"มูลค่า 5,000 บาท ส่วนคนที่ 2 ถึงคนที่ 5 จะได้รับ"Gift Voucher"มูลค่า 3,000 บาท ส่วนลูกค้า 200 คนหลังจะได้"Gift Voucher"คนละ 500 บาทคะ แต่ลูกค้าจำนวน 500 คนแรกที่ได้เข้าร้าน"H&M"สาขานี้ในเช้าของวันที่ 31 สิงหาคมจะได้รับของแจกเป็นกระเป๋า"Tote"แบบ"Limited Edition"ด้วยคะ

Picture : Foxy Lady

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Singapore : Shopping & Dining


มาต่อกันอีกนึดนึง..นิดนึงจริงๆ..5..5..5 ว่ากันด้วยเรื่องซื้อของและเรื่องกิน คราวนี้ที่ไปทัวร์จากเมืองจีนค่อนข้างเยอะ..หนาแน่น..ใครที่ทนทัวร์จีน(หมายถึงจีนแท้ๆต้นฉบับที่ไม่ใช่ฮ่องกงหรือใต้หวัน)ไม่ได้ควรมีขันติ..5..5..5 ทั้งเรื่องมารยาทและความสะอาดคนชาตินี้ได้ไป 100 คะแนนเต็ม แต่เป็น 100 คะแนนในทางด้านลบนะ..5..5..5 ตามห้างและโรงแรมใหญ่ๆจะเต็มไปด้วยทัวร์จากเมืองจีนมาลง ลงกันแบบเป็นกองทัพ มากันหมดขุนศึกตระกูลหยางตั้งแต่อาม่า,อากง,โซ้ยอี้,โซ้ยเจ็ก,อาตี๋,อาหมวย และมาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอดอลบี้ 800 หลอด ไม่ว่าศูนย์การค้านั้นจะระดับเอลิสต์เพียงใด..ทัวร์จากจีนจะสามารถลดเกรดศูนย์การค้านั้นให้เหลือเพียงแค่ตลาดนัดท้ายซอยได้..5..5..5

That CD Shop : ร้านขายซีดีและดีวีดีที่หายากขึ้นทุกวันในยุคที่นิยมการโหลดทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้อง ร้าน"That CD Shop"นั้นตามสายตาของดิฉันเพลงดีกว่าร้าน"HMV"ที่ขายสินค้าในประเภทเดียวกัน โดยเฉพาะเพลง"Dance"และเพลงแบบ"Lounge" โดยเฉพาะเพลงแบบ"Lounge"ทาง"That CD Shop"มีการออกแผ่นเป็นของตัวเองด้วย และแน่นอน..แพง

Orchard : ถนนชอปปิ้งชื่อดังของสิงคโปร์ ไม่ได้ไปหลายปีเปลี่ยนไปจนงง หลายตึกยังอยู่ที่เดิมแต่ได้รับการตกแต่งใหม่จนจำตึกเดิมไม่ได้ เป็นถนนที่มีห้างเยอะที่สุด,ร้านเยอะที่สุด,กะเทยหนาแน่นที่สุด(5..5..5)ในสิงคโปร์ แต่..ร้านไม่ค่อยต่างจากกรุงเทพนักดังที่เขียนไว้ในบทความที่แล้ว

The Shoppes at Marina Bay Sands : ศูนย์การค้าใหญ่ยักษ์หรูหราห้าดาวระดับเอลิสต์(แต่ทัวร์จีนเยอะมาก..5..5..5) ใครชอบของแพง,ของใหญ่,ของดัง..เชิญที่นี่คะ แต่ละร้านของแต่ละแบรนด์ใหญ่สุดลูกหูลูกตา อย่าเอาขนาดร้านแบรนด์เดียวกันตามพารากอน,เกษรหรือเอราวัณไปเปรียบเทียบ คนละรุ่นคนละไซส์ แต่ร้านส่วนใหญ่นั้นยังเปิดไม่ครบ น่าจะเป็นปี 2014 ไปแล้วที่น่าจะเปิดครบหมดทั้งหมด

Tim Ho Wan : ร้านที่ขายเฉพาะติ่มซำที่เขาว่าดังนักหนามาจากฮ่องกง ร้านดัง,เล็กและแพงคนแน่นมากต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีแถมคิวยาวจนถ้าหิวมากๆอาจทนรอไม่ได้ จากที่ได้ไปกินก็อร่อยนะ..แต่ไม่ใช่ที่สุด เพราะเคยไปฮ่องกงแล้วเจ้านายเก่าพาไปกินอร่อยกว่านี้..กว่าแบบหลายเท่า

Ng Ah Sio : ร้านขายบักกุ๊ตเต๋ชื่อดังของประเทศนี้ จริงๆนี่คือจุดนึงเลยนะที่ต้องไปสิงคโปร์ครั้งนี้ เพราะต้องพาคนสำคัญไปกิน เพราะลองค้นหาดูหลายครั้งแล้วทั้งจากเวปไทยและเวปสิงคโปร์เองเขาก็ว่าร้านนี้ดีที่สุด แน่นอนแพงและแน่น แต่คงด้วยบารมีของคนสำคัญที่ไปด้วยกัน ไปถึงก็ได้นั่งและได้อาหารเลยเหมือนเสกเหมือนดีดนิ้ว

กรี๊ด..ด..ด..ด..เขียนยาวอีกแล้ว..ว..ว..ว แหมนะคนมันบ้าน้ำลายคุยแล้วคุยไม่หยุดเขียนแล้วเขียนไม่จบ..5..5..5 ที่เขียนมาก็ใช่ว่าจะทั้งหมดแต่เป็นที่ที่ได้ไปมาแล้วมากกว่า ลองเข้าไปอ่านดูได้จากตามลิงค์ที่ใส่ไว้ด้านหน้า รวมไปถึงลองเข้าไปหาอ่านบทความภาษาอังกฤษที่แนะนำร้านและสถานที่ต่างๆที่ได้รับความนิยมในสิงคโปร์ได้ในเวปนี้คะ"The Best Singapore"

Picture : Foxy Lady

Singapore


หายไปทำธุระ(ที่ไม่ได้เกี่ยวกับธุระกิจแฟชั่นใดๆ)ที่สิงคโปร์มา 3 วัน หลังจากที่ไปสิงคโปร์ครั้งสุดท้ายเมื่อ 6 ปีที่แล้ว สิงค์โปร์ในปี 2013 เปลี่ยนไปหลายอย่างมีทั้งด้านดีและไม่ดี ต้นไม้และแลนด์สเคปเมืองนี้ยังคงสวยหรือสวยมากกว่าเดิม คงมีแต่งบประมาณอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีใจรักและรสนิยมด้วย ไม่ใช่มีสวนหย่อมแล้วปล่อยให้หญ้าตายขยะเกลื่อนแบบบางประเทศ..5..5..5

มาๆ..ไปเที่ยวสิงคโปร์กับดิฉันแบบสั้นๆกันคะ ห้างส่วนใหญ่แบรนด์แทบ..ไม่มีแบรนด์อะไรแตกต่างไปจากเมืองไทย แต่แตกต่างกันด้วยขนาดพื้นที่ของร้าน,การบริการและจำนวนของสินค้า บางอย่าง..บางแบรนด์..แพงกว่าเมืองไทยเป็นพันก็มี ซึ่งน่าจะเกิดจากที่สินค้าแบรนด์นั้นๆทางสิงคโปร์ไม่ได้เป็นผู้นำเข้าเอง แต่ที่ดีกว่าจนไม่สามารถยกเอาเรื่องราคาที่แพงกว่าขึ้นมาอ้างได้ก็คือจำนวนของสินค้าและการบริการ พนักงานส่วนใหญ่หน้าตาสวยงาม..แม้จะไม่เท่าเกาหลีก็เถอะ พูดเพราะ,ภาษาอังกฤษดีไม่ได้เป็นอังกฤษสำเนียงสิงคโปร์แบบสมัยก่อน แล้วสินค้าส่วนใหญ่ที่ได้เห็นหลายๆแบรนด์จะมีครบสี,ครบไซส์และจะมีชิ้นใหม่แกะกล่องให้ลูกค้าเสมอ ไม่ใช่แบบว่า..มีเข้ามาชิ้นเดียว,สีเดียวหรือเหลือชิ้นสุดท้ายที่โชว์แล้วคะ..นี่ขายลูกชิ้นปิ้งเหรอยะหล่อน..5..5..5 สินค้าที่จะทำการขอคืนภาษี(GST Refund)ได้ต้องมีราคาตั้งแต่ 100 เหรียญสิงคโปร์(99.95 ก็ไม่ได้คะ..5..5..5) โดยสินค้าที่ต้องการคืนภาษีต้องนำตัวสินค้าไปแสดง(สำแดง?..อะไรซัมติง)ที่เคาน์เตอร์"GST Refund"ก่อนทำการเช็คอินที่สนามบินด้วยคะ

โรงแรมส่วนใหญ่และสนามบินมี"Wi-Fi"ให้ใช้ฟรี โดยที่สนามบิน"Changi"นั้นไม่ต้องใช้"ID"และ"Password"ใดๆเหมือนกับในโรงแรม เพียงแค่เปิด"Wi-Fi"แล้วเลือก"#Wi-Fi@Changi"ก็สามารถใช้ได้เลย โดยความเร็วนั้น..เร็วกว่าของ"Dtac"ที่เสียเงินใช้อยู่เสียอีก..5..5..5 ถ้าไปไหนมาไหนไม่หยุดแบบว่าออนทัวร์รอบเกาะแล้วไปคนเดียวในระยะเวลา 3 วัน 2 คืนควรซื้อบัตร"Singapore Tourist Pass" เพราะขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวในระยะเวลา 3 วัน โดยบัตร"Singapore Tourist Pass"สำหรับ 3 วันอยู่ที่ราคา 30 เหรียญสิงคโปร์(มีให้เลือกแบบ 1 และ 2 วันด้วยคะ) ซึ่งสามารถนำบัตรไปคืนได้ในวันกลับและจะได้รับค่ามัดจำบัตรคืน 10 เหรียญ ข้อดีของบัตรนี้คือไม่ต้องเข้าคิวซื้อตั๋ว,ไม่ต้องคิดมากเมื่อลงผิดสถานีก็ขึ้นใหม่เข้าๆออกๆขึ้นๆลงๆสนุกสนานและไม่เหลือเหรียญเศษเล็กเศษน้อยแบบซื้อตั๋วต่อเที่ยวให้มาเป็นภาระ นอกจากบัตรนี้จะใช้ได้กับ"MRT"แล้วยังใช้ได้กับรถเมล์และ"LRT"อีกด้วยคะ มีสถานีเดียวในสิงคโปร์ที่ใช้บัตรนี้ไม่ได้คือ"Sentosa Express" ซึ่งแยกออกมาต่างหากต้องซื้อบัตรใหม่อีก 4 เหรียญสิงคโปร์คะ

สิงคโปร์เป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงคือไปแล้วห้ามคิดมากคิดจุกจิกนั่นนี่ อาจพาลทำให้นอนไม่หลับท้องผูกเที่ยวไม่สนุก..5..5..5 ก่อนไปครั้งนี้ก็ซื้อหนังสือท่องเที่ยวสิงคโปร์มาอ่านเนื่องจากไม่มั่นใจ(ไว้จะเผาให้ฟังในภายหลัง..5..5..5)เพราะไม่ได้ไปมาตั้ง 6 ปี แต่พอหลังจากอ่านจบ..เสียดายตังนะ หาอ่านเอาในเนตข้อมูลยังจะอัพเดทซะกว่า ส่วนตัวช่วยในการไปเที่ยวแน่นอนสมัยนี้เขาไม่กางแผนที่กันแล้ว ไม่งั้นเราจะซื้อโทรศัพท์แพงๆมาทำซากอะไร?..ถ่ายหน้าตัวเอง?..ถ่ายหมา?..5..5..5 "Application"ที่จัดว่าดี(อาจมีดีกว่าแต่หายังไม่เจอ..5..5..5)สำหรับการไปสิงคโปร์ก็คือ"Explore Singapore"และ"Streetdirectory" โดยที่"Explore Singapore"นั้นคือแผนที่รถไฟใต้ดิน(MRT)สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกประเภท ส่วน"Streetdirectory"นั้นเป็นแผนที่เมืองสิงคโปร์แบบละเอียดเพียงแค่กรอกชื่อสถานที่ลงไป แผนที่ก็จะแสดงตำแหน่งของจุดที่เราจะไปอย่างแม่นยำ อุ้ย..ยาวไปละ..ว่าจะเขียนสั้นๆแล้วเชียว..นี่ยาวจนจะพิมพ์เป็นพ๊อคเก็ตบุ๊คนำเที่ยวสิงคโปร์ได้แล้ว..5..5..5

Picture : Foxy Lady

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Spring/Summer 2014 : Top Male Models

Top 3 และ Top 5 ในแต่ละสาขา(หยั่งกับมอบรางวัล..5..5..5)ของนายแบบที่เดินในฤดูกาล"Spring/Summer 2014"ที่เพิ่งผ่านมาจากหนังสือ"MFF"ของอิตาลี

Picture : MFFashion

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Fashion’s Night Out 2013


Bangkok : ถึงงานต้นฉบับที่นิวยอร์คจะเลิกจัดไป แต่ก็ยังมีเมืองอื่นๆที่ยังคงมีงาน"Fashion’s Night Out"อยู่ และนี่ก็คือครั้งแรกของกรุงเทพที่จะมีงานนี้ โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 27 และ 28 กันยายนหรือเดือนหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ กินพื้นที่การจัดงานตั้งแต่"สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์"ไปจนถึง"เซ็นทรัลชิดลม" โดยจุดมุ่งหมายของการจัดงาน"Fashion’s Night Out"ตั้งแต่แรกเริ่มก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจของวงการแฟชั่น เมื่อถึงเดือนหน้าเรามาคอยดูกันว่างานนี้จะ"ปัง"หรือจะ"แป๊ก"..5..5..5

Fall-Winter 2013-2014 : Kolon Sport


Seoul : "Kolon Sport"เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแบบ"Outdoor"ของเกาหลีที่เพิ่งจัดแฟชั่นโชว์ไปเมื่อ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ถึงเสื้อผ้าของ"Kolon Sport"จะไม่นับเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นโดยตรง แต่เท่าที่ดูและพอจะหารายละเอียดได้แบรนด์นี้ได้ตัวดีไซน์เนอร์ดังอย่าง"Jean Colonna"มาเป็น"Creative Director"ของแบรนด์ อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้สไตล์ลิ่งเลยดูเกินเลยไปกว่าแบนด์แบบ"Outdoor"ทั่วๆไป ซึ่งก็ไม่ใช่วิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะแบรนด์ในแนวทางเดียวกันอย่าง"Moncler"ก็ใช้วิธีการนำแสดงผลงานในแบบนี้เช่นกัน โดยในครั้งนี้แบรนด์"Kolon Sport"ได้นำเสนอการแสดงผลงานในรูปแบบ"Futuristic"ที่แปลกตาโดยให้ชื่อว่า"2023"หรืออีกนัยนึงก็คือ"Neo Seoul"(Cloud Atlas?) โดยที่นางแบบและนายแบบทั้งหมดนั้นใส่คอนแทคเลนซ์สีเหลืองและต่างหู"LED"ที่เดินออกมาพร้อมกับดนตรีประกอบในแบบที่แปลกตาไปจากโชว์อื่นๆของแบรนด์เกาหลีเท่าที่เคยเห็นมา

 

Picture : EFU , Kolon Sport